พ.ย. 23, 2024, 07:55 PM

ข่าว:

แหล่งรวมประสบการณ์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นของทุกคน


การกระทุ้ง (Healing Crisis หรือ Health Challenge)

เริ่มโดย admin, มี.ค. 19, 2022, 07:44 AM

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

admin

การกระทุ้ง (Healing Crisis หรือ Health Challenge)
   ท่านที่กำลังกินสมุนไพร โดยเฉพาะสมุนไพรสูตรตำรับที่มีส่วนผสมของสารสกัดคาวตองฯ(ภาษากลางเรียกชื่อคาวตองฯ) ที่ผมได้ทำการศึกษามานานนี้ว่า ในขณะที่ท่านกิน สูตรตำรับที่มีสารสกัดคาวตองฯ อยู่ และคนส่วนใหญ่มักเกิดภาวะเยียวยาหรือวิกฤติก่อนหายหรือภาษาพื้นบ้านก็เรียกว่าการกระทุ้ง(Healing Crisis หรือ Health Challenge) ท่านจะปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อให้สามารถทนอยู่กับภาวะเยียวยาหรือการกระทุ้งได้ตลอด จนอาการป่วยที่ท่านเป็นอยู่ดีขึ้น พร้อมกับร่างกายกลับมาเป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง นับว่าผมโชคดีกว่านักวิจัยหลายๆท่านที่ผมมีโอกาสออกเดินทางไปแทบทุกจังหวัดของประเทศไทย ตลอดจนประเทศเพื่อนบ้านเช่น สปป.ลาว มาเลเซียและกัมพูชา ได้ไปพบกรณีศึกษาที่น่าสนใจจำนวนมากนับหมื่นคน  ที่ทีมงานได้ประสานงานไว้ล่วงหน้าเพียงแต่ไม่มีเวลาเดินทางไปให้ทันตามจำนวนที่ทีมงานในพื้นที่เตรียมไว้ ทำให้มีโอกาสบันทึกเทปเสียงไว้ไม่ถึง 2 พันรายเท่านั้นเอง แต่จากจำนวนกรณีศึกษามากกว่าพันราย ก็ทำให้ผมได้มองเห็นอีกมิติหนึ่งของสังคมเช่น วิถีชีวิตที่ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถเดินทางจากที่บ้านที่อยู่ห่างไกลมารับการตรวจรักษาในโรงพยาบาลได้ ทำให้อาการของโรครุนแรงกว่าที่เราเคยพบในเมืองใหญ่ ตลอดจนคนไข้จำเป็นต้องขวานขวายหาที่พึ่งทุกอย่างที่พอจะนึกได้มาช่วยเหลือตัวเอง มิติในความคิดจิตใต้สำนักที่เป็นมุมมองต่อระบบการรักษาของการแพทย์แบบแผน มิติของความหลากหลายของโรคแปลกๆและการสะสมอมโรคในผู้ป่วยคนเดียวจนไม่คิดว่าจะมีใครที่ป่วยด้วยโรคมากมายหลายชนิดเช่นป่วยด้วย 12 โรคในคนเดียวและในเวลาเดียวกัน ซึ่งแม้แต่เราก็ยังนึกไม่ออกว่าจะหาปัจจัยมารักษาตัวเองให้หายขาดทุกโรคได้อย่างไร เนื่องจากบางโรคตำราทางการแพทย์ยังเขียนระบุไว้ชัดเจนว่า รักษาให้หายขาด(No cure)ไม่ได้  และเรื่องสำคัญที่ผมไปบันทึกข้อมูลไว้อีกประการหนึ่งที่เรียกได้ว่า มีนักวิจัยน้อยคน ที่ได้พบและศึกษาเรื่องนี้ไว้ก็คือ "การกระทุ้งโรค" หรือ Healing Crisis ที่บังเอิญผู้ที่กินสมุนไพรคาวตองฯสูตรต่างๆที่ผมพัฒนาการผลิตวัตถุดิบเกือบทั้งหมด จะเกิดการกระทุ้งโรคนำมาก่อน แล้วโรคที่เขาเป็นอยู่ก็ค่อยๆบรรเทาลง การกระทุ้งที่พบเห็นก็มีลักษณะหลากหลายไป หรือแม้กระทั่ง มีการกระทุ้งหลายรอบ แล้วพยาธิสภาพของผู้ป่วยก็ลดลงเรื่อยๆมีจำนวนหลายราย จนผมเองรู้สึกกลัวหรือตื่นเต้นหรือสนุกไปกับงานที่พบมามากๆ ในบทความตอนการกระทุ้งโรคตอนนี้ ผมจะได้รวบรวมกรณีศึกษาของผู้ป่วยหลายๆรายที่ป่วยด้วยโรคต่างๆ และเมื่อกินสมุนไพรคาวตองฯไปแล้ว เกิดการกระทุ้งโรคและเมื่ออาการกกระทุ้งโรคผ่านพ้นไป โรคที่เป็นอยู่ก็ค่อยๆดีขึ้น มาเล่าสู่กันฟังให้เป็นเหมือนตำนานอย่างหนึ่งในวงการแพทย์ก็น่าจะได้
ในบทความชื่อ Integral Healthcare** พูดถึงการแพทย์ทางเสริมในขณะที่การแพทย์ที่อาศัยเทคโนโลยีก้าวหน้าในวงการแพทย์ว่า ทำให้ติดขัดต่อสุขภาพของความเป็นมนุษย์ ที่จะมีอะไรอื่นที่นอกเหนือจากการตรวจค่าทางเคมี ชีววิทยาของร่างกาย มันควรจะรวมกับเรื่องของอารมณ์ จิตใจ และจิตวิญญาณเข้าไปด้วย ในความท้าทายนี่เองที่การแพทย์ทางเสริมที่รวบรวมเอาองค์ความรู้มากมายมหาศาลตั้งแต่เคสกรณีศึกษา รูปแบบต่างๆทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ เช่น  American Holistic Medical Association (AHMA) ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้นำที่ให้การสนับสนุนผู้ที่ให้บริการการแพทย์แบบองค์รวม หรือการแพทย์ทางเสริม หรืออีกองค์กรหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นผู้ให้ข้อมูลแก่ผู้ให้บริการการแพทย์ทางเลือกหรือทางเสริมก็คือ  National Center for Complementary and Alternative Medicine (NCCAM) และ National Library of Medicine (NLM) ที่ให้ความรู้ผ่านเว็บไซด์ของ PubMed เป็นต้น รูปแบบทั้งหลายนี้ก็มุ่งหน้าเดินสู่แนวทางหลากหลายของการแพทย์องค์รวมตลอดศตวรรษที่ 21 นี้เป็นต้นไปเลยทีเดียว

admin

"การกระทุ้ง" ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Healing Crisis บางแห่งเรียกว่า "ภาวะซ่านพิษ" จากบทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดย รองศาสตราจารย์รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล เรื่องยาเขียว ยาไทยใช้ได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก มีข้อความหนึ่งที่เขียนถึงคำว่ากระทุ้งดังนี้ " ยาเขียวเป็นตำรับยาไทย ตามองค์ความรู้ของแพทย์แผนไทย หรือหมอพื้นบ้าน ที่มีการใช้กันมานานหลายทศวรรษ และเป็นตำรับที่ยังมีการผลิตขายทั่วไปตราบจนปัจจุบัน ประชาชนทั่วไปในสมัยก่อนจะรู้จักวิธีการใช้ยาเขียวเป็นอย่างดี กล่าวคือ มักใช้ยาเขียวในเด็กที่เป็นไข้ออกผื่น เช่น หัด อีสุกอีใส เพื่อกระทุ้งให้พิษไข้ออกมา เป็นผื่นเพิ่มขึ้น และหายได้เร็ว" ซึ่งจะเห็นได้ว่า คำว่า กระทุ้งเป็นคำที่ใช้ในวงการยาของไทยมาแต่โบราณ ในเอกสารข้อมูลที่เขียนเกี่ยวกับการกระทุ้งในต่างประเทศก็กล่าวถึงการกระทุ้งไว้มากมายเช่น บทความชื่อ "การเข้าใจการกระทุ้ง" เขียนโดย ดร. Ginger Chalford, Ph.D ที่กล่าวว่า การกระทุ้งเป็นสิ่งปรารถนาที่ซ่อนอยู่ในร่างกายที่จะหาวิธีเข้าถึงสุขภาพที่ดีให้ได้โดยการขับของที่ไม่ดีออกจากร่างกาย ซึ่งเมื่อการขับออกได้เริ่มต้นขึ้นมันอาจเกิดขึ้นอย่างเบาบางหรือรุนแรงก็ได้ทั้งนั้น ในขบวนการกระทุ้งที่เกิดขึ้น ระบบการทำงานทุกส่วนของร่างกายจะออกมาทำงานพร้อมเพรียงกันเพื่อขับสารพิษออกแล้วเริ่มขั้นตอนการสร้างทดแทนใหม่อีกครั้งหนึ่ง เนื้อเยื่อเก่าถูกแทนที่ด้วยเนื้อเยื่อใหม่ อาการเจ็บป่วยจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายพยายามกระทุ้งโรคแต่ไม่สามารถเป็นไปตามขั้นตอนได้จะด้วยสาเหตุใดๆหรือหลายสาเหตุก็ตาม ในขบวนการกระทุ้งระบบของร่างกายจะถูกปิดกั้นชั่วขณะกลายเป็นเสมือนเขื่อนที่กักสารพิษรอเวลาแตกทะลักออกมา ซึ่งจะแตกต่างจากการขับถ่ายที่ระบบของร่างกายจะไม่ถูกปิดกั้นโดยจะขับออกถ่ายออกอย่างเสรี บางครั้งการกระทุ้งจะรุนแรงกว่าอาการของโรคเรื้อรังที่เป็นอยู่ก่อน แต่ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นของการกระทุ้ง ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราว การกระทุ้งมักจะเป็นการรื้อฟื้น หรือเตือนความทรงจำอาการของโรค ที่เคยเป็นมาในอดีตที่คนมักจะลืมอาการขณะป่วยไปแล้ว และนำเอาสิ่งที่เคยเกิดขึ้น มาเปิดการแสดงให้เราเห็นชัดๆ ในขณะเกิดการกระทุ้ง ทั้งนี้ก็เพื่อให้ระบบของร่างกาย ที่กำลังทำงานได้ปฏิบัติงาน บอกออกมาจากอดีตให้เสร็จสิ้นไปตามบท หรือภาพที่ฉายให้เห็นในการแสดงประมาณนั้นน่ะครับ โดยสิ่งที่สามารถมองเห็นหรือรับรู้การกระทุ้งได้ก็มี อาการผื่นแพ้พุพองโผล่ขึ้นตามผิวหนัง คลื่นไส้ ปวดหัว ง่วงนอน อ่อนเพลียผิดปกติ ท้องผูก ท้องร่วง ถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะมีเลือดออกมา รู้สึกเย็นที่หัวและหน้าอก ติดเชื้อในหู ตุ่มหนองพุพองที่ผิวหนังหรืออาการอื่นๆ ที่ร่างกายใช้ขับสารพิษออก เวลาของการกระทุ้งอาจเป็นอยู่ประมาณ 3 วัน แต่หากร่างกายของผู้ป่วยมีกำลังน้อย การกระทุ้งอาจยาวไปเป็นหลายสัปดาห์ ร่างกายผู้ที่เกิดการกระทุ้ง ต้องการของเหลวโดยเฉพาะน้ำเป็นจำนวนมาก เพื่อนำพาสารพิษออกไป ในขณะเดียวกัน ก็เป็นเวลาที่ต้องพักให้มาก สงบจิตใจหรือความรู้สึกต่างๆ ตลอดจนควบคุมการเคลื่อนไหว ตลอดช่วงที่มีการกระทุ้งอย่างสงบ หากจะนึกตามภาษากำลังภายในของจีน ก็พอเทียบได้กับสำนวนที่ว่า "ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว" นั่นเอง การสงบทั้งร่างกายและจิตใจ จะทำให้พลังชีวิตของเรา ได้มีโอกาสในการทำงาน มากกว่าการที่ร่างกายเคลื่อนไหววุ่นวาย หรือโวยวายตลอดเวลา โดยปกติแล้วการกระทุ้งเพียงครั้งเดียว อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้โรคหายขาด คนที่กักโรคไว้จนป่วยเรื้อรัง จำเป็นต้องผ่านการกระทุ้งหลายรอบ ซึ่งการกระทุ้งแต่ละรอบก็จะช่วยให้อาการดีขึ้นเรื่อยๆ     ต้องใช้เวลามากพอ สำหรับการกระทุ้งเอาโรคเรื้อรังออกมาให้หมด ซึ่งเปรียบเหมือนการแกะหัวหอมออกมาทีละชั้น การกระทุ้งอาจรุนแรงในบางโรค ที่เป็นเรื้อรังมานานโดยเฉพาะโรคมะเร็ง ตับอักเสบ  งูสวัด การติดเชื้อไวรัสหรือปอดบวม เป็นต้น

admin

มีบ่อยครั้ง ที่ผู้ป่วยจะเกิดการกระทุ้งเริ่มต้น ในขณะที่เขารู้สึกดีและมีกำลังมากๆ ร่างกายทุกส่วนก็จะเริ่มปฏิบัติงานในขบวนการกระทุ้ง คนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่ามีพละกำลังมาก ขณะขบวนการกระทุ้งเริ่มต้นขึ้น จนกว่าสารพิษทั้งหลาย ได้ถูกเทพรวดลงไปในกระแสเลือด เพื่อเตรียมขับออกจากร่างกาย ให้ท่านปล่อยร่างกายทำงานขับพิษไปอย่างช้าๆ  ....ตามที่ระบบทั้งหลายต้องการขับสารพิษ แล้วท่านจะค่อยๆดีขึ้นเอง ในกรณีที่เกิดกระทุ้งรุนแรง การกระทุ้งอาจเกิดบ่อยๆหลายครั้งจนในที่สุด ก็ผ่านพ้นไปได้ และร่างกายก็จะกลับมาเป็นปกติ ก็ต้องคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเรื่องปกติของการกระทุ้ง อย่าขุ่นเคืองและมีอารมณ์โกรธแค้น แล้วมีความคิดไปต่อต้านมัน ให้คิดตลอดเวลาว่า "ใช้ความสงบ สยบความเคลื่อนไหว" ในระหว่างการกระทุ้ง และให้ท่านเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อรอรับกับการที่จะต้องถ่ายอุจจาระเสมอ เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก มีคำพูดที่มักพูดกันในวงการแพทย์เสมอว่า "สุขภาพดีเริ่มต้นที่ลำไส้" หากมีท้องผูก ก็ให้ใช้ยาระบายสมุนไพรธรรมชาติ ช่วยเสริมขบวนการกระทุ้งด้วย จำไว้เสมอว่าการกระทุ้งมีคุณค่ามาก ที่เราจำเป็นต้องฝ่าผ่านมันไปให้ได้
การกระทุ้ง เป็นภาวะคล้ายการเจ็บป่วย หรือรุนแรงมากกว่า มันเกิดจากกรรมวิธีที่ร่างกายรักษาตัวเอง ผ่านการขับสารพิษออกจากร่างกาย ซึ่งการกระทุ้ง เป็นขบวนการย้อนกลับของการบาดเจ็บ แผล การติดเชื้อและการเสียสมดุล ที่เกิดมาเป็นระยะเวลายาวนานของร่างกาย แม้ว่าการกระทุ้งจะทำให้เกิดอาการไม่ค่อยสบายตัวขึ้น แต่การกระทุ้งเป็นเรื่องสำคัญ และมันเป็นสัญญานที่ดีที่แสดงว่า ร่างกายกำลังใช้พลังชีวิตในการรักษาตัวเองอยู่ อาการกระทุ้งที่พบทั่วๆไปก็มี ปวดหัว หน้าแดง ผื่นหรือฝีขึ้นที่ผิวหนัง มีไข้ คลื่นไส้ ปวดตามข้อ มึนงง อ่อนเพลียแปลกๆ นอนไม่หลับ แน่นหน้าอก อารมณ์พลุ่งพล่าน ซึมเศร้า กระวนกระวาย ปวดเกร็งกล้ามเนื้อ ท้องผูก ท้องเดิน ร้อนวูบวาบที่หน้า เหงื่อออกตอนกลางคืน และอาการอื่นๆคล้ายไข้หวัดหรือหวัดใหญ่ การกระทุ้งมักเป็นการย้อนรอยของโรคที่ฝังในร่างกายมานานในอดีตเหมือนเป็นปฏิกริยาย้อนกลับ ซึ่งทำให้โรคที่เคยเป็นมาแต่อดีต ได้ย้อนกลับมาระดมกำลังทำร้ายร่างกายของเราใหม่ เนื่องจากร่างกายขับพิษ ที่โรคดังกล่าวที่ได้เก็บสะสมมันไว้ ในขบวนการเกิดโรคอย่างยาวนานนั้นออกมา ตามอวัยวะที่ทำหน้าที่ขับถ่ายอย่างเข้มข้น อาการกระทุ้งที่เป็นอาจรุนแรงมากกว่าการกระทุ้งปกติ หากเป็นการกระทุ้งที่เกิดขึ้นกับโรคร้ายแรงที่เคยเป็นมาก่อนเช่น การกระทุ้งของโรคมะเร็ง ตับอักเสบ  งูสวัด การติดเชื้อไวรัสหรือปอดบวม เป็นต้น

admin

จำไว้เสมอว่า อาการกระทุ้งแปลกๆที่เกิดจากการกระทุ้ง มักจะเข้มข้นรุนแรงกว่าอาการของโรคที่เกิดขึ้น หรือกำลังรักษาอยู่ แต่การกระทุ้งเป็นเรื่องชั่วคราว และเป็นการปูเส้นทางไปสู่สุขภาพที่จะสร้างขึ้นใหม่ ซึ่งขบวนการกระทุ้ง มักคงอยู่ราว 2-3 วันแต่ก็อาจยาวนานได้หลายสัปดาห์ บางทีอาจมีการกระทุ้งหลายรอบ จนกว่าโรคจะหายไปได้ ซึ่งมักเกิดในกรณีโรคที่ร้ายแรงเช่นมะเร็ง ลิ้นหัวใจรั่วเป็นต้น โดยในขณะที่เกิดขบวนการกระทุ้งขึ้น ระบบมากมายของร่างกาย จะทำงานร่วมกันเพื่อขจัดของเสียและพิษออกไป และเมื่อเหตุการณ์ผ่านไปได้เสียครั้งหนึ่งแล้ว ร่างกายก็จะมีสุขภาพดีกว่าและแข็งแรงกว่าเดิมเสมอ เมื่อต้องการการลดอาการกระทุ้งลง เพราะทนอาการไม่ไหวหรือเกิดการกระทุ้งที่รุนแรงมาก ก็ให้ดื่มน้ำมากๆ หรือนอนพักมากๆ เพื่อเจือจางสารพิษที่ถูกขับออกจากร่างกาย หรือการนอนก็จะเป็นการลดความเร็วของการขับสารพิษลง ขอให้นึกเสมอว่าการกระทุ้งเป็นสิ่งที่ดี แม้ว่ามันจะทำให้คุณรู้สึกแย่ แต่มันคือสัญญานบอกถึงภาวะที่กำลังขับสารพิษ สิ่งสกปรก และความไม่สมดุล ออกจากร่างกาย การกระทุ้งบอกให้เรารู้ว่าการสร้างสุขภาพดีและความแข็งแกร่งเดินมาถูกทางแล้ว มีประโยคปลอบใจประโยคหนึ่ง หากนึกถึงเรื่องการกระทุ้งให้คิดถึงคำพูดสั้นๆว่า "ไม่ปวดไม่ได้ผล"

admin

สารสกัดสมุนไพรคาวตองฯที่เป็นส่วนผสมอย่างหนึ่งในสูตรตำรับ สารสกัดคาวตองฯ ทำให้เกิดอาการกระทุ้งในผู้ที่กินมากเป็นพิเศษ(จากประสบการณ์ในด้านยามาตลอดชีวิต ผมยังไม่เคยพบสมุนไพรอะไร ที่กระทุ้งโรคได้มากขนาดนี้มาก่อน) ปัจจุบันผมได้พัฒนาให้มีการกระทุ้งของสารสกัดคาวตองฯน้อยลง พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพในเชิงลึกและกว้างมากขึ้น โดยนำเห็ดถั่งเช่ามาเสริมฤทธิ์กับส่วนผสมที่มีอยู่เดิม(รายละเอียดจะนำมาเล่าในภายหลัง)แต่การกระทุ้ง ก็ยังพอมีอยู่บ้างหรือยังมากอยู่ในผู้ป่วยบางท่าน เนื่องจาก สารสกัดคาวตองฯ  เข้าไปทำงานร่วมกับอวัยวะ หรือเซลล์ที่ไม่ปกติอย่างจริงจัง จึงทำให้สารพิษถูกขับออกมามาก และเข้มข้นในเวลาสั้นๆ ทำให้อวัยวะรายทางที่สารพิษเดินทางผ่าน เกิดการระคายเคืองและเกิดภาวะความโกลาหล แล้วแสดงออกด้วยอาการที่แปลกๆเช่นปวด ไข้ เพลียฯที่เราเรียกว่าการกระทุ้ง หรือวิกฤติก่อนหาย จากการออกไปพบ และบันทึกปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ที่กินสารสกัดสมุนไพรคาวตองฯ จำนวนผู้ที่เกิดอาการกระทุ้งจะมีมากราวร้อยละ 80 ทีเดียว และเมื่อเกิดอาการกระทุ้งขึ้น และเริ่มหายไปแล้ว อาการของโรคที่มีในตัวผู้ป่วย ก็จะดีขึ้นโดยลำดับ ซึ่งหากปรากฎการณ์นี้ เป็นเหมือนรูปแบบที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ก็แสดงว่าสารสกัดสมุนไพรคาวตองฯ มีฤทธิ์ในการขับสารพิษ รักษาการบาดเจ็บ แผล การติดเชื้อและการเสียสมดุล ที่เกิดมาเป็นระยะเวลายาวนาน ของร่างกายได้ดี ซึ่งข้อมูลที่ได้สอบถามผู้ป่วย เพื่อทำวิจัยภาคสนาม ก็ได้ข้อมูลตรงกันว่า ส่วนใหญ่ผู้ที่จะหายจากโรคที่มีอยู่ได้ดีและเร็ว ก็จะเกิดการกระทุ้งมากด้วยเช่นกัน
**(https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3093682/)

admin

ผมได้ออกพื้นที่ไปพบกับผู้ป่วยเกือบทั่วประเทศ ได้พบเห็นกรณีที่สารสกัดสมุนไพรคาวตองฯของผมกระทุ้งโรคร้อยละประมาณ 80 ซึ่งปกติถ้าการกระทุ้งเกิดขึ้น ผู้ป่วยก็จะหายจากโรคค่อนข้างแน่นอน เช่นกรณีที่เกิดขึ้นกับแม่บัวศรี....... อยู่บ้านยางใหญ่  เมื่อต้นเดือน ก.พ.57 ผมเดินทางไปพบแม่บัวศรี..........อายุประมาณ 70 ปี ที่เป็นปวดเข่าและที่หลังเรื้อรัง เนื่องจากตกต้นไม้สมัยเป็นเด็ก ซื้อสารสกัดคาวตองฯชนิดผงที่ปัจจุบันใช้เป็นส่วนผสมของ สารสกัดคาวตองฯ มากิน 1 แผงจำนวน 10 แคปซูล โดยกินตามคำแนะนำคือครั้งละ 1 แคปซูลวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ในคืนแรกหลังจากที่กินแคปซูลที่สองไปสักพัก แม่บัวศรีบอกว่าเกิดร้อนที่ท้องมากๆ เป็นอยู่ราว 30-40 นาทีก็หายไป รุ่งเช้าแม่บัวศรี.....เขากินต่ออีกครั้ง หลังจากนั้นสักพักก็รู้สึกว่าร้อนกว่าเดิม ระดับความร้อนเหมือนเอาไฟสุมแต่ตำแหน่งที่ร้อนได้ย้ายไปที่ช่องคลอดแทน แต่หลังจากนั้นสัก 30-40 นาที ก็หายร้อน ตอนเย็นก่อนอาหาร แม่บัวศรี.......ก็กินอีกครั้ง หลังจากนั้นก็เกิดร้อนเหมือนไฟสุมอีก แต่ได้เปลี่ยนตำแหน่งไปเป็นที่ทวารหนักแทนร้อนมากสัก 30 นาทีมีความรู้สึกว่าทวารจะโผล่ออกมาข้างนอกดีที่เกิดอาการไม่นานเหมือนสองครั้งแรก พอเข้านอนก็หลับสบายดีไม่มีอาการอะไรมารบกวน แต่ตื่นมาตอนเช้าปรากฏว่าอาการปวดหัวเข่า แข้งและขาได้หายไปหมดไม่เหลือเลย แต่มีชาหลงเหลือเล็กน้อย อาการกระทุ้งที่แม่บัวศรี......ได้เล่าให้ผมฟังนี้ นับว่าแปลกไปจากที่ผมเคยพบมากเป็นลักษณะแปลกที่สุด ที่ร่างกายสามารถสร้างความร้อนขึ้นมาได้มากมายแบบนี้ได้อย่างไร จะว่าแม่บัวศรี.....จะพูดถึงระดับความร้อนมากเกินจริงไปบ้าง แต่เนื่องจากในบางสภาวะร่างกายของคนเราอาจผลิตความร้อนออกมามากมายกว่านี้ก็เคยมีบันทึกไว้ในวงการวิทยาศาสตร์ จนถึงกับทำให้ร่างกายไหม้หมดทั้งตัว แต่รายของแม่บัวศรี... ที่ร่างกายผลิตความร้อนออกมาเป็นสัญลักษณ์ของการกระทุ้งโรคของแม่บัวศรี..... นับเป็นกรณีกระทุ้งที่สมใจมากของผู้ป่วยเพราะความร้อนคือสัญลักษณ์ของไฟที่ใช้เผาทำลายล้างโรคและสารพิษที่ทำให้เกิดโรคที่หลายคนคิดอยู่ในใจเมื่อต้องการเอาไปรักษาโรคเรื้อรัง แต่อาการกระทุ้งของแม่บัวศรี...... คงอยู่ไม่นานเพียง 2 วันก็หายไปพร้อมกับโรคปวดเข่าเรื้อรังก็หายไปด้วย ผมเองก็ทำได้แต่รายงานสิ่งที่เกิดขึ้นในภาคสนามเพื่อให้ท่านได้รับรู้ถึงอาการแปลกๆของการกระทุ้งที่มีมากมายหลายรูปแบบ โดยยังไม่มีความเห็นสรุปอะไรมากจนกว่าจะได้ศึกษาอะไรมากพอในอนาคต จึงจะสรุปผลเป็นภาพรวมมาเล่าสู่กันในวันนั้นอีกครั้งหนึ่ง

admin

   เนื่องจากมีเรื่องของการกระทุ้งให้ผมและทีมงานพบเห็นและได้บันทึกไว้มากมาย จึงอยากจะขอนำเอาประสบการเกี่ยวกับการกระทุ้งหรือภาสะเยียวยามาเล่าสู่ท่านผู้อ่านได้ทราบเผื่อจะได้นำมาเปรียบเทียบกับการกระทุ้งที่เกิดกับท่าน ซึ่งผมคิดว่าเรื่องการกระทุ้งนี่ เมืองไทยอาจมีข้อมูลมากกว่าที่ใดในโลก เนื่องจากสังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเอื้ออาทร การทำบุญเป็นเรื่องที่ฝังอยู่ใต้สมองของพวกเราทุกทุก การให้ความรู้เป็นวิทยาทานจะสอดคล้องกับแนวคิดของชาวพุทธที่สอดคล้องกับคติว่า การให้ธรรมะเป็นทานเป็นการให้ทานอันสูงสุด ผมจึงได้วิทยาทานที่ผู้ที่เขาหายจากโรคหรือก่อนหายมีการกระทุ้งมาเล่ามากมาย  ตัวอย่างผู้ที่เกิดการกระทุ้งเช่น

1. คุณนิรมล อายุ 44 ปี  อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นภูมิต้านทานต่ำดื่มคาวตองฯไปขวดแรกก็มีปวดในกระดูกขา กระดูกซี่โครง ปวดมากจนต้องกินยาแก้ปวดช่วย อาการปวดในกระดูกของคุณนิรมลเป็นอยู่ 7 วันจึงค่อยหายไป

2. พ่อน้อยอายุ 56 ปี อยู่ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ มะเร็ง เป็นนิ่วในไตปวดท้องน้อยทางซ้ายตุบๆปวดมากเวลาปัสสาวะ ไมเกรนปวดหัวข้างซ้ายข้างเดียวเดียวแล้วลามไปทั้งสองข้างปวดต้องนอนทั้งวัน  หัวใจโต หายใจไม่อิ่มต้องหายใจทางปากช่วย ใจสั่นคิดว่าอายุคงไม่ยืน มีเข่าเสื่อมมีเสียงดังเวลาเดินมีปวดเข่ามาก  กระเพาะอักเสบ และต่อมไทรอยด์เป็นพิษ คอแห้งเพลียมากเวลาเดินต้องใช้ปากช่วยหายใจ เดินรู้สึกเบาหวิวๆ หลังกิน คาวตองฯไปก็เริ่มเกิดกระทุ้งตลอด 4 วัน อาการที่มีอยู่เพิ่มมากขึ้น ปวดมากขึ้นปวดทั้งตัวร่วมกับมีไข้ ต้องกินยาแก้ปวดช่วย หลังจากผ่านไป 7 วัน อาการทุกอย่างก็ค่อยๆกลับมาเป็นปกติ สำหรับโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษก็หายเพลีย หายใจเต็มปอดปกติ อาการปวดขาก็หายไป อาการหัวใจโตใจสั่น ก็ปกติหลังกินผ่านไป 15 วัน อาการปวดท้องน้อยทางซ้ายหลังกิน คาวตองฯไป 4 วัน ก็ปวดท้องน้อยมากขึ้น มีก้อนนิ่วหลุดออกมาเหมือนดินทรายปนมีลักษณะเป็นเหลี่ยมคม หลังจากนั้น 3-4 วัน ปัสสาวะก็ใสเป็นปกติ

3. พ่อหนู  อายุ 58 ปี   ต.แกดำ อ.เมือง จ. อำนาจเจริญ เบาหวานนาน 8 ปี ปวดขา มึนหัว มึนชา ความดันสูง มีอาการรุนแรงเวลาหิวจะหิวจัด ปัสสาวะบ่อยมาก กินน้ำวันละ 3-4 ลิตรก็ยังไม่รู้สึกอิ่ม น้ำตาลสูง 372 ทำให้เพลียมาก  แม้จะนั่งเฉยๆ แทบไม่มีแรงพูด  หลังกินก็ปวดทั่วตัวมากขึ้น  ประมาณ 2-3 วัน หลังจากนั้นอาการกระทุ้งก็ดีขึ้นและเบาหวานก็ดีขึ้นมากๆ ไปตรวจหมอบอกว่าดีมาก น้ำตาล ลดลงเป็น 160 หมอบอกว่าหากกินดีก็กินต่อไป ตอนนี้เดินไปมาได้ปกติ ไม่เพลีย คอแห้งลดลงมาก  อาการปวดขาก็หายไป เบาสบายขึ้นมาก ความดันอาการเดิมหายไปหมด ไม่ค่อยปวดหัวอีก ยังมีมึนชาบ้าง

4. แม่ฉวี อายุ 65 ปี   ต.เมืองนางาม อ. ทุ่งเขาหลวง  จ.ร้อยเอ็ด เป็นเบาหวาน ปวดขา มึนชามือเท้า ปวดหัว เพลียทั้งนั่ง นอน หายใจไม่อิ่ม คอไม่แห้ง เป็นเบาหวานมาตั้งแต่ 48 ปี น้ำตาล 180 เบื่ออาหาร มึนชามือเท้าจนเลือดไหลก็ไม่เจ็บ แต่แผลยังหายง่าย วิงเวียนหัวมาก กินแล้วมีกระทุ้งเสียดจี๊ดๆ คันที่นั่นนี่ไปมาตลอด ยิ่งกินมากก็อาการมากขึ้น  ไป รพ.ก็ไม่รู้สาเหตุ พอกินไป 7 วันอาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ อาการเพลียหายไปแล้ว อาการปวดหัว ที่ปวดแบบเหมือนจะระเบิด ก็หายไปแล้ว หายใจโล่งสบายดี

5. ป้าเปีย อายุ 61 ปี  ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นโรคปวดเข่า เป็นมานาน 2 เดือนแล้วกินยารักษาก็ไม่หาย ปวดมากจนทำงานไม่ไหว ต้องกินยาแก้ปวดอยู่ตลอด ได้ฟังรายการวิทยุ ว่ามีสมุนไพรคาวตองฯช่วยรักษาอาการปวดจึงทดลองกินดู หลังจากที่ได้กินแล้วมีอาการปวดเมื่อยไปหมด ก็รู้สึกตกใจบ้างแต่คิดว่าเป็นการกระทุ้งโรคก็กินต่อไป หลังจากนั้น อีก 10 วัน อาการปวดก็หายไปเลยโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็กินต่อมาเรื่อยๆ จนถึงเดือนที่ 5 อาการที่เคยปวดมากจนทำงานไม่ไหวตอนนี้หายปวดไปหมด ไม่รู้สึกปวดอีกเลย ร่างกายแข็งแรงกว่าเดิม ผิวพรรณดีขึ้น รู้สึกพอใจมาก ๆ จึงแนะนำให้คนในครอบครัวและญาติกินด้วย

6. พ่อวิสุทธิ์ อายุ 69 ปี อ.โพนวิสัย จ.หนองคาย ป่วยด้วยโรคปวดหลังจากยกกระสอบข้าวขึ้นรถ เป็นมา 45 ปี ก่อนนี้ยืนไม่ได้นาน แขนขาอ่อนแรง เวลาเดินทางด้วยรถโดยสารก็ต้องหาที่นั่งให้ได้เนื่องจากยืนไม่ได้ อาการเป็นมากตั้งแต่ก้นกบไปถึงนิ้วก้อย  ประสาทหูไม่ค่อยได้ยินตั้งแต่เกิดเจ็บบั้นเอว พอกินไปได้สองเดือนก็กระทุ้งมีถ่ายสองครั้งจำนวนมากสีดำๆ มีร้อนหลังเท้ามากจนต้องเอาแช่น้ำเป็นอยู่ 1 วันก็หายร้อน ขามีแรงมากขึ้น น้ำหนักตัวลดจาก 75 กก. เหลือ 60 กก. ใน 3 เดือน

7. แม่เหล็ง   อายุ 65 ปี  บ้านนาล้อม อ.บึงกาฬ  จ.หนองคายอาชีพทำนาไม่สบาย ไปตรวจพบโรคกระเพาะอาหาร มีนิ่วในไต ในถุงน้ำดีแน่นท้อง นั่งไม่ได้ ต้องพยายามเดิน ตอนเย็นๆต้องเดินรอบๆบ้าน มีจุกเสียด รู้สึกออกร้อนหน้าท้องและทั่วตัวกิน คาวตองฯก็กระทุ้งมีออกร้อนมากขึ้นกว่าเดิม จึงลดขนาดลงครึ่งหนึ่ง อาการออกร้อนจึงลดลง โรคกระเพาะก็หายไปแล้ว เคยมีไอเรื้อรังตลอด ไม่ไอแข่งกันกับอีกคนไปนอนวัดอีกแล้ว

8. แม่เตียง จ.ยโสธร เนื้องอกในมดลูก  ก่อนหน้าจะไปหาหมอ เป็นประจำเดือนออกมาเยอะมาก เจ็บเอว พอหาหมอตรวจพบเนื้องอกขนาด 1 ซม. แต่ไม่ยอมผ่าตัด ซื้อสมุนไพรคาวตองฯมากิน มีอาการกระทุ้ง ร้อนเท้า ร้อนหน้าตา เป็นอยู่ประมาณ 3 วัน หลังดื่ม ประจำเดือนมาเป็นปกติ ไม่ออกเยอะเหมือนเมื่อก่อน ร่างดายดีขึ้น รู้สึกว่า เนื้องอกยุบ

9. ประภาพร อายุ 44 ปี   บ้านสระกรวด อ. ขามสะแกแสง  จ.นครราชสีมามะเร็งในเม็ดเลือด ระยะสุดท้าย เป็นผื่นออกที่เต้านมแล้วเปื่อยกลายเป็นหนอง ออกร้อนจนต้องใช้น้ำแข็งโป๊ะ ไปหาหมอก็ได้ยาฉีดมาเรื่อยๆ ก็ไม่ดีขึ้น ผ่านไป 10 กว่าปี ได้รับเคมีบำบัด ผมร่วงหมดหัว หมอให้ไปตัดเต้านมออก เป็นภูมิแพ้หอบหืด- นอนท่าปกติไม่ได้ ต้องนอนคุดคู้หลับ  เป็นไขมันอุดตัน เหนื่อย ไม่มีแรง ชาแขนซ้าย ปวดหัวจนต้องใช้ผ้าพันไว้เครียดมากจนต้องกินยานอนหลับ 40 เม็ดเพื่อฆ่าตัวตาย ตอนเริ่มกิน สารสกัดคาวตองฯใบหน้าดำมาก โทรมทั้งตัว มีกระทุ้งโดยมีจุดเขียวๆแดงๆออกที่เต้านมก่อนแล้ว 7 วัน แล้วก็ยุบหายไปโดยไม่เปื่อย หลังจากกินไปประมาณ 15 วัน ก็มีแรง ยกกระสอบข้าว 70 กก.ได้ คิดว่าแข็งแรงเหมือนอายุ 20 ปี ที่เต้านมไม่มีก้อน ท้องที่เคยโตเหมือนท้อง 8 เดือน ก็หายไปหมด ผิวหน้าสดใสมากขึ้น อาการชาแขนซ้ายก็หมดไป ร่างกายแข็งแรงจนทำงานหนักได้ทั้งวัน

10. แม่หันอายุ 53 ปี   อ.ปากชุม จ.เลย ไตอักเสบเจาะหลัง เบาหวาน ความดัน กระเพาะอักเสบ ปวดขาทำงานไม่ได้มา 2 ปี ป่วยโรคไต ทำให้เจ็บแน่นหน้าอก หายใจลำบาก บวมที่หลัง ไตมีเนื้องอกด้วยจึงผ่าเอาออก เบาหวานทำให้ลุกแล้วหน้ามืด เพลียมาก แม้แต่นั่งก็เหนื่อย แข้งขาล้า หิวน้ำ น้ำตาลสูงสุด 300 กว่า ไม่เคยต่ำกว่า 200 ความดัน สูง 200 ทำให้ปวดหัวประจำ มาก โรคกระเพาะทำให้ปวด จุก ใจสั่น มีปวดขา เริ่มกิน คาวตองฯก็กระทุ้งทำให้ปวดมาก เหมือนแขนขาจะหลุดออกจากกัน เดือนที่ 2 ยังบวมอยู่  แล้วค่อยๆเบาสบายขึ้น ปัสสาวะดี ไม่ขุ่นแล้ว อาการปวดหลังดีขึ้น ป่วยเป็นเบาหวานทำให้ไม่เพลีย ทำงานดีขึ้น หลังกินไป 1 เดือน น้ำตาลเหลือ 90 ความดันตอนนี้ดีขึ้น ไม่ปวดหัวแล้ว ไม่กินยาแก้ปวดช่วยอีกแล้วกระเพาะก็ดีขึ้น ไม่มีอาการปวดจุกแล้ว

11. คุณเสนีย์  อายุ 48 ปี อยู่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นอัมพฤกษ์จากอุบัติเหตุ กินสารสกัดคาวตองฯไปได้ 3 วันแรกมีอาการปวดจนเหงื่อโทรมตัว ท้องอืดจนเจ็บต้องกินยาลมช่วย อาการเป็นอยู่ 3 วันจึงดีขึ้น

12. คุณวารี  อายุ 58 ปี อยู่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ปวดหัวเรื้อรังรุนแรงมากปวดจนร้องไห้ กินสารสกัดคาวตองฯ ก็มีอาการปวดมาก อุจจาระเป็นมูกปัสสาวะมีกลิ่นฉุนมากขึ้น พอกินครบเดือน อาการดังกล่าวก็หายไป

13. คุณแม่อุไร  อายุ 62 ปี อยู่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เป็นปวด ภูมิแพ้ กินสารสกัดคาวตองฯ เกิดอาการปวดมากขึ้นทั้งตัว แต่ก็ดีขึ้นเมื่อกินไปนานเกือบเดือน

14. คุณวันโน  อายุ 55 ปี อยู่ อ.กะปง จงพังงา  เป็นเก๊าต์มา 2 ปี กินสารสกัดคาวตองฯไป ราว 3-4 วัน ถ่ายอุจจาระเป็นมูกเหนียว เป็นมันเวลาถ่ายเสร็จต้องใช้สบู่ล้างมือจึงจะสะอาด อาการดังกล่าวลดลงและหายไปใน 7 วัน

15. พ่อคำพร  อายุ 73 ปี อยู่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เป็นกรดไหลย้อน ปวดเข่า กินสารสกัดคาวตองฯไป 2-3 วัน กระทุ้งเป็นผื่นคันขึ้นทั้งตัว ปวดข้อไหล่เหมือนผ่านการทำงานหนักมาแล้ว

admin

บทความทั้งหมดนี้เป็นการบันทึก
กรณีศึกษาการกระทุ้ง ของสมุนไพร
โดย อ.อุดม รินคำ
คุณแซม สุขศรี
ได้นำมาลงไว้ เป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
เพื่อให้เป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจ
ไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่น
กรุณาใช้ข้อมูลให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์
ขอบคุณครับ