อาการปวดหลัง ปวดเอว ปวดเข่า ปวดข้อเท้า ปวดสะโพกร้าวลงขา

เริ่มโดย admin, ก.พ. 12, 2022, 10:05 PM

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

admin

ช่วงนี้มีแต่คนถามเรื่องอาการปวด
อาการปวดหลัง ปวดเอว ปวดเข่า ปวดข้อเท้า ปวดสะโพกร้าวลงขา
กินยาอะไรถึงจะหาย ก่อนจะตอบคำถาม
มีอาการหนึ่งจะเล่าก่อน อาการเจ็บปวดแป็บๆ ตามผิวหนัง
ตามปลายนิ้ว จับตรงไหน เจ็บปวดตรงนั้น
อาจเป็นปลายประสาทอักเสบนะครับ
ให้ทานอาหารเสริมพวกวิตามินบีช่วยนะครับ

อาการปวดหลัง ปวดเอว ปวดเข่า ปวดข้อเท้า ปวดสะโพกร้าวลงขา
เป็นได้จากหลายสาเหตุมาก
ส่วนมากจะเกิดจากการกดทับเส้นประสาท
แต่ผู้ป่วยอาจไม่รู้ตัว เพราะมันเคลื่อนมาทับก็จะปวด
ไปนวดไปดึงเส้น ทำกายบริหาร หรืออยู่เฉยๆ เส้นอาจคลาย
ก็จะหายปวดไป แล้วพอกลับมาทับอีกก็จะปวดอีก
ต้องหาจุดกดทับให้เจอ ถึงจะรักษาได้ง่าย
ส่วนมากจะกดทับ ช่วงหลัง ช่วงเอว
มันอธิบายยากมากๆ ขอบอก
ปวดข้อเท้า อย่านึกว่ามันเป็นที่ข้อเท้า
มันอาจทับเส้นที่ตรงเอว

ที่รู้เพราะผมเป็นเอง รักษาด้วยตนเอง
ไม่ไปโรงพยาบาลกลัวโดนผ่าตัด
อาการคือ ขับรถนานๆ 3-4 ชั่วโมง
จะปวดหลังมาก แล้วก็มาทำกายบริหาร
มานวด 2-3 วัน มันก็หาย ไม่ได้คิดอะไรมาก
เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติใครๆ ก็ปวด
เป็นมาหลายปี ประมาณ 5-6 ปี เป็นๆ หายๆ
ช่วงหลังๆ นั้งทำงานนานๆ ก็ปวด
หรือเดินตลาดอยู่ดีๆ เข่าก็หมดแรงไม่มีแรง
ตื่นเช้ามาก็จะปวดข้อเท้า ต้องนั่งนวดก่อน ถึงจะไปทำงานได้
ดูๆ แล้วก็เป็นการปวดเมื่อยทั่วไปใครๆ ก็เป็น

อาการป่วยมาเป็นหนักเลยคือเมื่อปีที่แล้ว ปวดหลังหนักมาก
ก็รักษาเหมือนเดิม กินยา นวดยา ทำกายบริหาร
แล้วมันก็หาย ก็คิดว่าหายแล้วต้องทำร่างกายให้แข็งแรง
ก็ไปวิ่ง ไปออกกำลังกาย ไปกระโดด ผลที่ได้คือ
กลับมาเจ็บหนักกว่าเดิม เพราะกระดูกมันสะเทือน
เคลื่อนไปทับเส้นประสาท ทำอะไรไม่ได้เลยปวดมาก
สาเหตุจริงๆ คือไม่รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นอะไร
เพราะนอนได้สะบายสะบายไม่ปวด ก้มได้ เงยได้
ทำงานได้ปกติ ก็คิดว่าไม่ใช่กระดูกทับเส้น
แต่จริงๆ แล้วมารู้ตอนหลังมันทับอยู่ด้านข้างตรงเอว
ร่างกายเรามันจะหลบบริเวณที่เจ็บปวดอัตโนมัติ
มารู้ตัวคือ ตัวผมเอียงไปข้างหนึ่งแล้ว
เดินตัวเอียงเลย การกดทับเส้นประสาทนี้มันปวดได้ทุกอย่าง
ปวดไปถึงข้อเท้า ปวดหัว ปากเปรี้ยวก็ได้
คือเส้นประสาทมันดึงไปได้ทั่วร่างกายเลย วิเคราะห์โรคยากมาก
ใครที่เคยปวดแบบนี้จะเข้าใจระบบร่างกายได้ดีเลย
ปวดหัว ปวดข้อเท้า แต่จุดเจ็บป่วยจริงๆ อยู่ที่ข้างเอว
ถ้าไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเองก็จะไม่เข้าใจเลย
มันจะทำให้การรักษาไม่ถูกจุดมั่วไปหมด

การรักษาที่ผมรักษาคือ
1.ผมรักษาการอักเสบก่อนครับ ไปหาหมอคลีนิก ฉีดยากินยาพวกแก้อักแสบคลายเส้น
สมุนไพรที่กินเสริมการรักษาคือคาวตอง เพราะคิดว่าปวดขนาดนี้น่าจะมีการอักเสบแล้ว
https://www.banplukao.com/kourtongmak.html

2.กินอาหารเสริมแคลเซียม ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูก คิดว่ามันจะช่วยซ่อมกระดูกได้

3.ท่ากายบริหาร ที่จะทำให้เส้นประสาทมันหลุดเข้าที่ ต้องค่อยๆ ทำ
ทำเบาๆ พออาการปวดหายแล้วก็ทำหนักๆ เพิ่มได้

4.ต้องนวด ยังไงก็ต้องนวด บอกเลยทุกอาการต้องนวดถึงจะหาย ยานวดที่มีขายทั่วไป
ผมใช้มาหลายอย่างมาก ส่วนมากนวดแล้ว จะเย็น จะแสบ จะร้อน คือนวดแล้วจะต้องทรมาน
พอดีได้ยานวดขจรมา อันนี้ใช้ดี ไม่แสบไม่ร้อนแต่ได้ผล ยานวดแนะนำให้ใช้ตัวนี้เลย
https://www.kajon.in.th/kajonbodyoil.html

5.กินยาสมุนไพรคลายเส้น ผมใช้เถาเอ็นอ่อนหมอทองอินทร์ อันนี้จำเป็นต้องกินครับ
จะช่วยคลายเส้น เส้นมันจะคลายตัวแล้วหลุดกลับไปอยู่ในที่เดิมของมัน
ที่ใช้สมุนไพรเพราะต้องกินนานหลายเดือนค่อยๆ รักษาไป ไม่อยากจะกินยาแก้ปวด
https://www.banplukao.com/taoenon.html

ผมรักษาตัวเองอยู่ประมาณ 2 เดือนถึงหาย
การทดสอบว่าหายหรือยัง
ปกติผมนอนหงายจะยกขาขึ้นพร้อมกัน 2 ขาไม่ได้
ถ้ายกได้ก็จะต้องงอเข่า ถ้ายกแบบตึงๆ ไม่มีสิทธิ์จะยกขึ้นได้เลย
ต้องค่อยๆ ยกทีละข้าง เพราะเส้นถูกกดทับ
แต่ตอนนี้ยกขึ้นพร้อมกันแบบตึงๆ ได้แล้ว
ส่วนตัวที่เอียงพยายามดัดให้ตรง ไม่ได้ผลนะครับ
แต่เมื่อหายปวดแล้วร่างกายมันก็ค่อยๆ กลับมาตรงเหมือนเดิม

ปัญหาที่หนักมากคือ เมื่อหายป่วยแล้วเราไปทำงานแบบเดิม
ท่าเดิมๆ มันก็จะกลับมาป่วยเหมือนเดิมอีก
ส่วนตัวผมต้องนั่งทำงานทั้งวัน
ปรากฏว่าทำไม่ได้เหมือนเดิม นั่งนานๆ อาการปวดก็จะกลับมา
ต้องเปลี่ยนงานทำใหม่ หางานทำแบบอิสระ
นั่งบ้าง ยืนบ้าง เดินบาง นอนบาง ถึงจะทำได้ในแต่ละวัน

เพราะฉะนั้นใครที่มีอาการปวด
อาการปวดหลัง ปวดเอว ปวดเข่า ปวดข้อเท้า ปวดสะโพกร้าวลงขา
พยายามหาสาเหตุให้เจอ แล้วรีบรักษาแต่เนิ่นๆ ครับ
ส่วนผมสาเหตุน่าจะเกิดจากผมชอบนอนในโต๊ะทำงาน
ย่อนขาลงไปใต้โต๊ะ แล้วนอนบนเก้าอี้ทำให้กระดูกเคลื่อน
ทำงานหลายๆ ปี ท่าเดิมๆ อันตรายครับ
ต้องรีบแก้ไขแต่เนินๆ อายุมากขึ้นจะมีอาการครับ
สุขภาพคือเรื่องสำคัญ ผมเคยวางแผนหลังเกษียณ
จะทำโน้น ทำนี่ แต่พอมาเจออาการป่วยแบบนี้
ทำให้คิดได้ ถ้ารอถึงเกษียณ ร่างกายเราอาจไม่เหมือนเดิม
หรืออาจเจ็บป่วยแบบนี้ เรี่ยวแรงก็น้อยลง
คงเป็นอะไรที่ลำบากมาก จะทำอะไรต้อง
ลงมือทำเลยในเวลาที่เรายังแข็งแรงอยู่
ต้องวางแผนใหม่หลังเกษียญต้องพักผ่อน
ไม่ใช่หลังเกษียญต้องทำงาน

ขอบคุณครับ
เขียนบทความโดย คุณแซม สุขศรี