พลูคาว สมุนไพรต้านไวรัส โรคโควิด-19
พลูคาว คาวตอง
สมุนไพรนี้มีชื่อเรียกหลักๆ เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายคือ พลูคาว หรือว่า คาวตอง ส่วนชื่ออื่นๆ ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเท่าไหร่ ที่พลูคาวกลายเป็นที่สนใจกันมากขึ้นคือในช่วงปี ค.ศ 2019-2020 เกิดโรคระบาดที่มีชื่อว่า ไวรัสโคโรนา (COVID-19) หรือเป็นที่เรียกกันว่า ไวรัสโควิด-19 ในช่วงนั้น นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐศิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าพลูคาวมีฤทธิ์ในการลดฤทธิ์ไวรัสโควิด-19 คือมีฤทธิ์ในการต้านไวรัสโควิด-19 มีเควอซิติน และรูติน มีผลการวิจัยแล้วว่าลดการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้นั้นเอง
พลูคาว สรรพคุณในตํารับยาไทย
ต้น : ใช้รักษาโรคติดเชื้อและทางเดินหายใจ ฝีหนองในปอด ปอดบวม ปอดอักเสบ ไข้มาลาเรีย แก้บิด ขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำ นิ่ว ขับระดูขาว ริดสีดวงทวาร แก้โรคผิวหนัง ผื่นคัน ฝีฝักบัว แผลเปื่อย ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ แก้ไอ หลอดลมอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ
ราก : ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ใช้แก้โรคบิด โรคผิวหนัง โรคหัด ริดสีดวงทวาร หนองใน
ใบ : ใช้รักษาโรคบิด หัด โรคผิวหนัง ริดสีดวงทวาร หนองใน ใช้ปรุงเป็นยาแก้กามโรค ทําให้แผลแห้งเร็ว แก้โรคข้อ และโรคผิวหนังทุกชนิด ทั้งต้นมีรสเย็นและฉุน ใช้เป็นยาแก้โรคบิด โรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ขับปัสสาวะ แก้บวมน้ำ แก้ไอ หลอดลมอักเสบ ฝีบวมอักเสบ ริดสีดวงทวาร หูชั้นกลางอักเสบ
ข้อมูลทางเภสัชวิทยา
1.ฤทธิ์ระงับปวด เร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ ห้ามเลือด รักษาปริมาณของเหลวในร่างกาย
2.ฤทธิ์ขับปัสสาวะ พบสารฟลาโวนอยด์ที่แยกได้จากใบพลูคาวเป็นสาระสําคัญในการออกฤทธิ์
3.ฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ น้ำมันหอมระเหยจากการกลั่นส่วนเหนือดินของพลูคาว พบว่ามีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียอย่างแรงต่อเชื้อ
Bacillus cereus และ B. Subtilis เชื้ออหิวาต์ Vibrio cholerae 0-1 และ V.Parahaemolyticus
4.ฤทธิ์ต้านไวรัส น้ำมันหอมระเหยจากพลูคาว ซึ่งประกอบด้วย n-decyl aldehyde, n-dodecyl aldehyde
และ methyl-n-nonyl ketone สามารถยับยั้งการเจริญของไวรัสที่เป็นสาเหตุของไข้หวัดใหญ่ ในหลอดทดลองได้
นอกจากนี้ยังมีผลต่อไวรัสที่มีเปลือกหุ่ม 3 ชนิด ได้แก่ herpes simplex virus type-1 (HSV-1)
ไวรัสไข้หวัดใหญ่ และไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ (HIV-1) และไวรัสที่ปราศจากเปลือกหุ่ม 2 ชนิด
คือ โปลิโอไวรัส และ คอกซากีไวรัส
อ้างอิงข้อมูลในวิกิพีเดีย
การนำสารเคมีในผักพลูคาวไปประยุกต์ใช้
จากผลงานวิจัยของทีมงานของอาจารย์คณะแพทย์ ที่ ม.เชียงใหม่ และ ม.ขอนแก่น พบว่าสารพฤกษเคมีที่อยู่ในพลูคาว ช่วยกำหนดระบบนิเวศวิทยาในขบวนการหมักแบบชีวภาพ ทำให้ได้จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์หรือโพรไบโอติกส์ที่ช่วยปรับสมดุลของร่างกายกลุ่มแลคโตบาซิลลัสหรือยีสต์ ที่มีโครงสร้างผนังเซลล์เป็นน้ำตาลเชิงซ้อนชนิดเบต้ากลูแคนซึ่งสามารถกระตุ้นไขกระดูกให้ผลิตเซลล์ต้นกำเนิดได้ การทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่า โพลีนิวคลิโอไทด์จากแลคโตบาซิลลัสสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในสัตว์ทดลอง(หนู)ได้ใน 10 วัน พลาสมาของหนูทดลองดังกล่าวสามารถฆ่าเชื้อก่อโรคได้หลายชนิดเช่น Burkholderia pseudomallei, Shigella flexneri, Salmonella group B, Staphylococcus aureus และ Group A streptococci ได้ดีมาก ผลของการทดทองในผู้ติดเชื้อ HIV ก็สามารถทำให้คุณภาพชีวิตผู้ป่วยดีขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังสามารถใช้พลูคาวที่ผ่านกรรมวิธีการหมักแบบชีวภาพ ควบคู่กับการรักษาทางการแพทย์เช่นเคมีบำบัด หรือการฉายรังสี จะช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการแพ้น้อย อาเจียน ผมร่วงหรืออ่อนเพลียน้อยลง การที่สมุนไพรพลูคาวกำหนดการเกิดขึ้นของสารเบต้ากลูแคนในขบวนการหมัก ทำให้ได้สมุนไพรที่มีคุณสมบัติบำรุงสุขภาพองค์รวมดีกว่าใช้สมุนไพรคาวทองแบบธรรมชาติเดิมแท้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระตุ้นเซลล์ต้นกำเนิดให้ออกมาไหลเวียนในกระแสเลือดมากขึ้น จึงช่วยให้ร่างกายอ่อนวัยและฟื้นคืนจากโรคเสื่อมของเนื้อเยื่อต่างๆได้
ในประเทศจีนมีการใช้พลูคาวเป็นส่วนผสมตำรับยาต้าน Influenza virus เป็นส่วนผสมในตำรับยาที่ใช้ในการป้องกันและรักษาอาการของโรคที่เกิดจากไวรัสในไก่ โดยใช้ผสมในอาหารหรือน้ำดื่มที่ใช้เลี้ยงไก่ นอกจากนี้ยังเป็นส่วนผสมในตำรับยารับประทานสำหรับลดไข้ รักษาโรคหลอดลมอักเสบชนิดเฉียบพลันและชนิดเรื้อรัง เป็นส่วนประกอบในตำรับยาใช้รักษาการติดเชื้อเฉียบพลัน หวัด ไข้หวัดใหญ่และการติดเชื้อทางเดินหายใจ เป็นส่วนผสมในตำรับยาที่เป็นน้ำยาข้นใช้ทารักษาโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ คางทูม ต่อมทอนซิลอักเสบ และปอดอักเสบในเด็ก
ล่าสุดได้มีการศึกษาคุณสมบัติของพลูคาว ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล ว่าสามารถนำมาพัฒนาเป็นยาต้านไวรัสของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 ได้หรือไม่ เชื่อว่าจะสามารถต้านเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆ ได้เช่นกัน โดยเฉพาะเชื้อ HIV
สรรพคุณของพลูคาว
1.มีฤทธิ์ในการช่วยต่อต้านมะเร็ง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
2.มีฤทธิ์ในการช่วยบำบัดฟื้นฟูโรคความดันโลหิตสูง
3.ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ต้านทานโรค ช่วยยืดอายุผู้ป่วยให้อยู่สู้โรคได้นานมากขึ้น
4.มีส่วนช่วยยับยั้งเบาหวาน รักษาความสมดุลของร่างกาย
5.ช่วยทำให้กระดูกเชื่อมติดกันเร็วขึ้น (ต้นสด)
6.ช่วยรักษาปริมาณของเหลวในร่างกาย
7.ช่วยรักษาอาการหูชั้นกลางอักเสบ (ทั้งต้น)
8.ใช้รักษาโรคติดเชื้อและทางเดินหายใจ (ต้น)
9.ประโยชน์ของผักคาวตองช่วยแก้ไข้ (ใบ)
10.ช่วยรักษาโรคไข้มาลาเรีย (ต้น)
11.ใช้เป็นส่วนผสมในตำรับยาที่เป็นน้ำยาข้น ใช้ทารักษาและช่วยต้านเชื้อโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่
12.ใช้เป็นส่วนประกอบในตำรับยา ช่วยรักษาอาการติดเชื้อเฉียบพลัน ติดเชื้อทางเดินหายใจ
13.ใช้เป็นส่วนผสมในตำรับยาที่เป็นน้ำยาข้น ใช้ทารักษาคางทูม ต่อมทอนซิลอักเสบ และปอดอักเสบในเด็ก
14.คาวตองมีสรรพคุณช่วยแก้และบรรเทาอาการไอ (ทั้งต้น)
15.มีส่วนช่วยกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์เม็ดเลือดขาวช่วยรักษาภาวะภูมิแพ้ หอบหืด
16.ช่วยรักษาโรคไอกรน (ประยุกต์ใช้ทางการแพทย์)
17.ช่วยรักษาการอักเสบชนิดธรรมดาบริเวณแก้วตา (ประยุกต์ใช้ทางการแพทย์)
18.ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ (ทั้งต้น)
19.ช่วยรักษาโรคหลอดลมขยายตัวมากเกินไป (ประยุกต์ใช้ทางการแพทย์)
20.ช่วยรักษาอาการปอดบวม ปอดอักเสบ (ทั้งต้น)
21.ช่วยรักษาฝีหนองในปอด (ต้น)
22.ช่วยรักษาอาการคั่งน้ำในอกจากโรคมะเร็ง (ประยุกต์ใช้ทางการแพทย์)
23.ช่วยลดอาการบวมน้ำ (ทั้งต้น)
24.ใช้เป็นยาระบาย อาหารไม่ย่อย (ใบ)
25.รักษาอาการท้องเสีย (ใบ)
26.ใช้แก้โรคบิด (ต้น, ใบ, ทั้งต้น)
27.ช่วยขับพยาธิ (ใบ)
28.ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ (ราก, ทั้งต้น)
29.ช่วยรักษาอาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (ทั้งต้น)
30.ช่วยรักษาริดสีดวงทวาร (ต้นสด, ใบ, ทั้งต้น)
31.ช่วยรักษาโรคหนองใน (ใบ)
32.ใช้ปรุงเป็นยาแก้กามโรค (ใบ)
33.ช่วยรักษานิ่ว (ต้น)
34.ช่วยแก้โรคไต (ใบ)
35.ช่วยรักษาอาการไตผิดปกติ (ประยุกต์ใช้ทางการแพทย์)
36.ช่วยรักษาโรคตับอักเสบชนิดดีซ่าน (ประยุกต์ใช้ทางการแพทย์)
37.ช่วยขับระดูขาว (ต้น)
38.ช่วยรักษาแผลอักเสบคอมดลูก (ประยุกต์ใช้ทางการแพทย์)
39.ช่วยรักษาการอักเสบบริเวณกระดูกเชิงกราน (ประยุกต์ใช้ทางการแพทย์)
40.ช่วยแก้โรคข้อ (ใบ)
41.ช่วยรักษาโรคหัด (ใบ)
42.ช่วยรักษาโรคผิวหนังต่าง ๆ (ต้นสด, ใบ)
43.ช่วยรักษาผื่นคัน ฝีฝักบัว (ต้นสด)
44.มีฤทธิ์ช่วยระงับอาการปวด
45.ช่วยห้ามเลือด
46.มีฤทธิ์ต้านการอักเสบต่าง ๆ
47.ใช้พอกฝี บวมอักเสบ (ต้นสด, ทั้งต้น)
48.ช่วยรักษาบาดแผล (ต้นสด)
49.ช่วยรักษาแผลเปื่อย (ต้นสด)
50.ช่วยรักษาแผลให้หายเร็วขึ้น (ใบ)
51.ใช้พอกแผลที่ถูกงูพิษกัด (ต้นสด)
52.ช่วยป้องกันการติดเชื้อหลังผ่าตัด (ประยุกต์ใช้ทางการแพทย์)
53.ใบสดผิงไฟพอนิ่มใช้พอกเนื้องอกต่าง ๆ (ใบ)
54.มีฤทธิ์ช่วยต่อต้านเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส
55.ประโยชน์ของพลูคาวช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสชนิดต่าง ๆ เช่น ไข้ทรพิษ หัด งูสวัด เริม เอดส์ (HIV)
56.แก้โรคน้ำกัดเท้า
57.ในประเทศจีนใช้เป็นส่วนผสมในตำรับยาช่วยป้องกันและรักษาโรคที่เกิดจากไวรัสในไก่ โดยใช้ผสมในอาหารที่ใช้เลี้ยงไก่
58.ใบสดใช้ป้องกันปลาเน่าเสีย (ใบ)
59.ใบนำมารับประทานเป็นผักสด
60.ใบสดต้มน้ำนำมารดต้นข้าว ข้าวสาลี ต้นฝ้าย ป้องกันพืชเป็นโรคเหี่ยวเฉาตาย
61.ใช้ขับทากที่ตายในท้อง (ดอก)
62.เหมาะกับผู้ป่วยและผู้ที่ต้องการบำรุงร่างกาย ผู้ป่วยในระยะพักฟื้น
63.เหมาะกับผู้ที่ต้องการ Detox ล้างพิษออกจากร่างกาย ป้องกันโรคร้าย ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น ทำให้โรคต่าง ๆ มีอาการดีขึ้น และหายจากอาการของโรคต่าง ๆ ได้ในที่สุด
64.ใช้ควบคู่กับการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือการฉายรังสี จะช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการแพ้น้อยลง
65.ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางประเภทครีมทาแก้ผิวหนังแห้ง หยาบกร้าน ป้องกันผิวหนังแตก
วิธีใช้พลูคาวใช้ได้ทั้งต้นแต่ควรตัดให้สูงจากพื้น 1 ฝามือ
การปรุงยาแบบโบราณดั้งเดิม ใช้ต้นแห้งประมาณ 15-30 กรัม (ต้นสด 30-60 กรัม) นำมาแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที แล้วนำมาต้มน้ำให้เดือดประมาณ 5 นาทีแล้วนำมาดื่ม แต่หากใช้ร่วมกับสมุนไพรหรือยาชนิดอื่น ให้ต้มยาอื่นให้เดือดก่อนจึงใส่พลูคาว ต้มให้เดือด การรับประทานถ้ามากเกินไปอาจจะทำให้หัวใจเต้นสั้นและถี่ อาจเป็นอันตรายได้
แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี , สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
การผลิตพลูคาว
การผลิตผลิตภัณฑ์พลูคาว ที่ผลิตออกมาแล้วให้ใช้ได้ผลตามสรรพคุณที่ต้องการ ความจริงแล้วเป็นเรื่องที่ยากมากโดยเฉพาะการควบคุมมาตรฐานการผลิตที่จะทำให้เกิดความปลอดภัยและได้ตามมาตรฐานตามที่กฏหมายกำหนด
1. เริ่มตั้งแต่การเพราะปลูกจะต้องมีการคัดเลือกสายพันธ์ที่ต้องการ เพราะปลูกด้วยวิธีการปลอดสารเคมี เรียกว่าผลผลิตจากการเกษตรออร์แกนิค
2. ควบคุมการเกิดโรคของพืชด้วยธรรมชาติ อันนี้สำคัญการเพราะปลูกต้องไม่มีการนำสารเคมีเข้ามาใช้เพราะจะทำให้เกิดสารเคมีตกค้างในผลิตภัณฑ์พลูคาวได้
3. เมื่อเพราะปลูกแล้วก็จะตัดเก็บพลูคาว เป็นขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ ขั้นตอนนี้วัถุดิบต้องสะอาดปลอดจากแบคทีเรียที่ก่อโรคได้
4. นำพลูคาวมาหมักสกัดด้วยน้ำในอุณหภูมิที่เหมาะสม การหมักนี้จะมีการควบคุมพิเศษตามแบบเฉพาะของตนเอง อาจใช้เวลาหลายเดือน ส่วนมากผู้ผลิตจะจดสิทธิบัตรของใครของมันเพื่อสร้างความน่าเชื้อถือ เพราะในขั้นตอนการหมักจะเกิดจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์หรือโพรไบโอติกส์ที่ช่วยปรับสมดุลของร่างกายกลุ่มแลคโตบาซิลลัสหรือยีสต์ ที่มีโครงสร้างผนังเซลล์เป็นน้ำตาลเชิงซ้อนชนิดเบต้ากลูแคนซึ่งสามารถกระตุ้นไขกระดูกให้ผลิตเซลล์ต้นกำเนิดได้ เซลล์ต้นกำเนิดหรือสเต็มเชลล์มีคุณสมบัติ ในการซ่อมแซมอวัยวะที่สึกหรอต่างๆได้ หรือเปลี่ยนเป็นเชลล์นักฆ่า(NATURAL KILLER CELL) ที่สามารถกำจัดเชลล์มะเร็ง เนื้องอก และไวรัสต่างๆ ได้ดี นอกจากนี้สเต็มเซลล์ที่เกิดขึ้นยังไปเนี่ยวนำเซลล์ปกติของร่างกายให้ถอยวัยลงได้ ทำให้ถอยวัยลงเป็นหนุ่มเป็นสาวได้นานขึ้น
5. ในการนำไปใช้ผู้ผลิตพลูคาวแบบน้ำจะหาวิธีทำให้คุณสมบัติสรรพคุณของพลูคาวออกไปอยู่ในน้ำให้ได้มากที่สุด ส่วนผู้ผลิตแบบแคปซูลก็จะใช้เทคนิคพิเศษเพื่อให้สรรพคุณที่เกิดขึ้นอยู่กับพลูคาวให้ได้มากที่สุด และหาวิธีทำให้แห้งโดยไม่ให้สรรพคุณลดลงและเก็บได้ยาวนานมากที่สุด อาจต้องผสมสมุนไพรอื่นๆ เพิ่มเพื่อให้เสริมฤทธิ์กันให้มากขึ้น
6. นำเข้าแคปซูลด้วยวิธีการเฉพาะเพื่อคงสภาพยาวนาน (Vcaps Capsule เป็นแคปซูลที่ทำจากพืชเช่น.แป้งข้าวโพด เป็นต้น)
7. นอกเหนือจากนี้จะนำมาเป็นผลิตภัณฑ์ จะต้องตรวจสอบผ่านมาตรฐานอื่นๆ อีก เช่น.อย. GMP. ฮาลาน เป็นต้น
(การผลิตพลูคาวในปัจจุบันบางแบรนด์อาจมีกรรมวิธีการผลิตแบบใหม่ที่ไม่ต้องทำการหมัก จะทำการสกัดเอาสารที่ต้องการจากพลูคาวโดยตรงด้วยกรรมวิธีการแบบสมัยใหม่ แบบนี้จะได้สรรพคุณแบบเฉพาะบางเรื่องจากพลูคาว แต่จะไม่เกิดจุลชีพ หรือจุลินทรีย์ เหมือนสมัยก่อนที่เป็นต้นแบบในการผลิตพลูคาวมาอย่างยาวนานอาจทำให้ขาดสรรพคุณของพลูคาวในบางอย่างไป)
ตรีพลา สมุนไพรต้านไวรัส โรคโควิด-19
นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐศิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก
ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรต้านโควิด-19 อีกอย่างหนึ่งนั้นก็คือ "ตรีผลา" ซึ่งประกอบด้วยผลไม้ 3 อย่าง
สมอไทย สมอพิเภก และมะขามป้อม ซึ่งมีวิตามินซีสูง
ตรีผลา (Triphala) (อ่านออกเสียงว่า ตรี-ผะ-ลา)
คำว่าตรี แปลว่า สาม ส่วนคำว่าผลานั้นหมายถึงผลไม้ จึงหมายถึงผลไม้ 3 อย่าง
ซึ่งประกอบไปด้วยลูกสมอพิเภก (Terminalia belerica (Gaertn.) Roxb.)
ลูกสมอไทย (Terminalia chebula Retz.)
ลูกมะขามป้อม (Phyllanthus emblica Linn.)
สรุปก็คือ ตรีผลาเป็นยาสมุนไพรที่เป็นส่วนผสมของ สมอพิเภก สมอไทย และมะขามป้อม
เมื่อผลไม้ทั้งสามตัวนี้มารวมกันก็จะมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยควบคุมและกำจัดสารพิษในร่างกาย
ซึ่งจะส่งเสริมสรรพคุณซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี จนปัจจุบันได้มีการนำยาตำรับตรีผลามาใช้ในรูป
ของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มกันอย่างกว้างขวาง ใช้ได้ทุกเพศทุกวัยตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงคนชรา
และยังเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะมีส่วนช่วยลดน้ำหนักและล้างพิษในร่างกาย
และที่สำคัญคือมีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ
ท่านอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก
สมุนไพร พลูคาว ผสม ตรีพลา
พลูคาว ผสม ตรีผลา กระแสมาแรง
พลูคาวตำหรับนี้ เป็นพลูคาวผสมตรีผลา ส่วนประกอบมีพลูคาวกับผลไม้ 3 อย่าง
ผงพลูคาว 200 mg.
ผงมะขามป้อม 54 mg.
ผงสมอพิเภก 50 mg.
ผงสมอไทย 50 mg.
Capsule 96 mg.
อย.เลขที่ 52-2-01657-1-0029
ผ่านการตรวจประเมินสถานที่ผลิตตาม GMP กฎหมาย
ขนาดบรรจุ 60 แคปซูล
ราคา 1,200 บาท
ราคาพิเศษ 600 บาท
สินค้านี้ จัดส่งฟรี บริการเก็บเงินปลายทาง
ขนาดรับประทาน ครั้งละ 1-2 แคปซูล
วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร เช้า-เย็น
Dosage: Take 1-2 Capsules 2 times a day before Breakfast and Dinner
ควรรับประทานอาหาร หลากหลาย ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนเหมาะสมเป็นประจำ
ต้องการสั่งซื้อ
โทร.0655473978
แอดไลน์ไอดี @yathailand