พลูคาว สมุนไพรทางเลือก

ยูเอสเอส

พลูคาว คาวตอง
สมุนไพรนี้มีชื่อเรียกหลักๆ เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายคือ พลูคาว หรือว่า คาวตอง ส่วนชื่ออื่นๆ ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเท่าไหร่ ที่พลูคาวกลายเป็นที่สนใจกันมากขึ้นคือในช่วงปี ค.ศ 2019-2020 เกิดโรคระบาดที่มีชื่อว่า ไวรัสโคโรนา (COVID-19) หรือเป็นที่เรียกกันว่า ไวรัสโควิด-19 ในช่วงนั้น นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐศิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าพลูคาวมีฤทธิ์ในการลดฤทธิ์ไวรัสโควิด-19 คือมีฤทธิ์ในการต้านไวรัสโควิด-19 มีเควอซิติน และรูติน มีผลการวิจัยแล้วว่าลดการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้นั้นเอง

พลูคาว สรรพคุณในตํารับยาไทย
ต้น : ใช้รักษาโรคติดเชื้อและทางเดินหายใจ ฝีหนองในปอด ปอดบวม ปอดอักเสบ ไข้มาลาเรีย แก้บิด ขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำ นิ่ว ขับระดูขาว ริดสีดวงทวาร แก้โรคผิวหนัง ผื่นคัน ฝีฝักบัว แผลเปื่อย ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ แก้ไอ หลอดลมอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ

ราก : ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ใช้แก้โรคบิด โรคผิวหนัง โรคหัด ริดสีดวงทวาร หนองใน

ใบ : ใช้รักษาโรคบิด หัด โรคผิวหนัง ริดสีดวงทวาร หนองใน ใช้ปรุงเป็นยาแก้กามโรค ทําให้แผลแห้งเร็ว แก้โรคข้อ และโรคผิวหนังทุกชนิด ทั้งต้นมีรสเย็นและฉุน ใช้เป็นยาแก้โรคบิด โรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ขับปัสสาวะ แก้บวมน้ำ แก้ไอ หลอดลมอักเสบ ฝีบวมอักเสบ ริดสีดวงทวาร หูชั้นกลางอักเสบ

ข้อมูลทางเภสัชวิทยา
1.ฤทธิ์ระงับปวด เร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ ห้ามเลือด รักษาปริมาณของเหลวในร่างกาย
2.ฤทธิ์ขับปัสสาวะ พบสารฟลาโวนอยด์ที่แยกได้จากใบพลูคาวเป็นสาระสําคัญในการออกฤทธิ์
3.ฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ น้ำมันหอมระเหยจากการกลั่นส่วนเหนือดินของพลูคาว พบว่ามีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียอย่างแรงต่อเชื้อ Bacillus cereus และ B. Subtilis เชื้ออหิวาต์ Vibrio cholerae 0-1 และ V.Parahaemolyticus
4.ฤทธิ์ต้านไวรัส น้ำมันหอมระเหยจากพลูคาว ซึ่งประกอบด้วย n-decyl aldehyde, n-dodecyl aldehyde และ methyl-n-nonyl ketone สามารถยับยั้งการเจริญของไวรัสที่เป็นสาเหตุของไข้หวัดใหญ่ ในหลอดทดลองได้ นอกจากนี้ยังมีผลต่อไวรัสที่มีเปลือกหุ่ม 3 ชนิด ได้แก่ herpes simplex virus type-1 (HSV-1) ไวรัสไข้หวัดใหญ่ และไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ (HIV-1) และไวรัสที่ปราศจากเปลือกหุ่ม 2 ชนิด คือ โปลิโอไวรัส และ คอกซากีไวรัส

อ้างอิงข้อมูลในวิกิพีเดีย
การนำสารเคมีในผักพลูคาวไปประยุกต์ใช้
  จากผลงานวิจัยของทีมงานของอาจารย์คณะแพทย์ ที่ ม.เชียงใหม่ และ ม.ขอนแก่น พบว่าสารพฤกษเคมีที่อยู่ในพลูคาว ช่วยกำหนดระบบนิเวศวิทยาในขบวนการหมักแบบชีวภาพ ทำให้ได้จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์หรือโพรไบโอติกส์ที่ช่วยปรับสมดุลของร่างกายกลุ่มแลคโตบาซิลลัสหรือยีสต์ ที่มีโครงสร้างผนังเซลล์เป็นน้ำตาลเชิงซ้อนชนิดเบต้ากลูแคนซึ่งสามารถกระตุ้นไขกระดูกให้ผลิตเซลล์ต้นกำเนิดได้ การทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่า โพลีนิวคลิโอไทด์จากแลคโตบาซิลลัสสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในสัตว์ทดลอง(หนู)ได้ใน 10 วัน พลาสมาของหนูทดลองดังกล่าวสามารถฆ่าเชื้อก่อโรคได้หลายชนิดเช่น Burkholderia pseudomallei, Shigella flexneri, Salmonella group B, Staphylococcus aureus และ Group A streptococci ได้ดีมาก ผลของการทดทองในผู้ติดเชื้อ HIV ก็สามารถทำให้คุณภาพชีวิตผู้ป่วยดีขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังสามารถใช้พลูคาวที่ผ่านกรรมวิธีการหมักแบบชีวภาพ ควบคู่กับการรักษาทางการแพทย์เช่นเคมีบำบัด หรือการฉายรังสี จะช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการแพ้น้อย อาเจียน ผมร่วงหรืออ่อนเพลียน้อยลง การที่สมุนไพรพลูคาวกำหนดการเกิดขึ้นของสารเบต้ากลูแคนในขบวนการหมัก ทำให้ได้สมุนไพรที่มีคุณสมบัติบำรุงสุขภาพองค์รวมดีกว่าใช้สมุนไพรคาวทองแบบธรรมชาติเดิมแท้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระตุ้นเซลล์ต้นกำเนิดให้ออกมาไหลเวียนในกระแสเลือดมากขึ้น จึงช่วยให้ร่างกายอ่อนวัยและฟื้นคืนจากโรคเสื่อมของเนื้อเยื่อต่างๆได้
  ในประเทศจีนมีการใช้พลูคาวเป็นส่วนผสมตำรับยาต้าน Influenza virus เป็นส่วนผสมในตำรับยาที่ใช้ในการป้องกันและรักษาอาการของโรคที่เกิดจากไวรัสในไก่ โดยใช้ผสมในอาหารหรือน้ำดื่มที่ใช้เลี้ยงไก่ นอกจากนี้ยังเป็นส่วนผสมในตำรับยารับประทานสำหรับลดไข้ รักษาโรคหลอดลมอักเสบชนิดเฉียบพลันและชนิดเรื้อรัง เป็นส่วนประกอบในตำรับยาใช้รักษาการติดเชื้อเฉียบพลัน หวัด ไข้หวัดใหญ่และการติดเชื้อทางเดินหายใจ เป็นส่วนผสมในตำรับยาที่เป็นน้ำยาข้นใช้ทารักษาโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ คางทูม ต่อมทอนซิลอักเสบ และปอดอักเสบในเด็ก
  ล่าสุดได้มีการศึกษาคุณสมบัติของพลูคาว ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล ว่าสามารถนำมาพัฒนาเป็นยาต้านไวรัสของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 ได้หรือไม่ เชื่อว่าจะสามารถต้านเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆ ได้เช่นกัน โดยเฉพาะเชื้อ HIV

การประยุกต์ใช้ทางด้านการแพทย์
  1.โรคทางเดินหายใจอักเสบ
  2.โรคหลอดลมขยายตัวมากเกินไป
  3.โรคไอกรน
  4.อาการคั่งน้ำในอกจากโรคคมะเร็ง
  5.ป้องกันการติดเชื้อหลังผ่าตัด
  6.โรคท้องเสียจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
  7.โรคตับอักเสบชนิดดีซ่าน
  8.อาการไตผิดปกติ
  9.รักษาแผลอักเสบคอมดลูก
  10.การอักเสบบริเวณกระดูกเชิงกราน
  11.การอักเสบชนิดธรรมดาบริเวณแก้วตา
  12.โรคหัด
  13.โรคต่อมทอนซิลอักเสบจากการระบาด
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจากวิกิพีเดีย

การผลิตพลูคาว
  การผลิตผลิตภัณฑ์พลูคาว ที่ผลิตออกมาแล้วให้ใช้ได้ผลตามสรรพคุณที่ต้องการ ความจริงแล้วเป็นเรื่องที่ยากมากโดยเฉพาะการควบคุมมาตรฐานการผลิตที่จะทำให้เกิดความปลอดภัยและได้ตามมาตรฐานตามที่กฏหมายกำหนด
  1. เริ่มตั้งแต่การเพราะปลูกจะต้องมีการคัดเลือกสายพันธ์ที่ต้องการ เพราะปลูกด้วยวิธีการปลอดสารเคมี เรียกว่าผลผลิตจากการเกษตรออร์แกนิค
  2. ควบคุมการเกิดโรคของพืชด้วยธรรมชาติ อันนี้สำคัญการเพราะปลูกต้องไม่มีการนำสารเคมีเข้ามาใช้เพราะจะทำให้เกิดสารเคมีตกค้างในผลิตภัณฑ์พลูคาวได้
  3. เมื่อเพราะปลูกแล้วก็จะตัดเก็บพลูคาว เป็นขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ ขั้นตอนนี้วัถุดิบต้องสะอาดปลอดจากแบคทีเรียที่ก่อโรคได้
  4. นำพลูคาวมาหมักสกัดด้วยน้ำในอุณหภูมิที่เหมาะสม การหมักนี้จะมีการควบคุมพิเศษตามแบบเฉพาะของตนเอง อาจใช้เวลาหลายเดือน ส่วนมากผู้ผลิตจะจดสิทธิบัตรของใครของมันเพื่อสร้างความน่าเชื้อถือ เพราะในขั้นตอนการหมักจะเกิดจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์หรือโพรไบโอติกส์ที่ช่วยปรับสมดุลของร่างกายกลุ่มแลคโตบาซิลลัสหรือยีสต์ ที่มีโครงสร้างผนังเซลล์เป็นน้ำตาลเชิงซ้อนชนิดเบต้ากลูแคนซึ่งสามารถกระตุ้นไขกระดูกให้ผลิตเซลล์ต้นกำเนิดได้ เซลล์ต้นกำเนิดหรือสเต็มเชลล์มีคุณสมบัติ ในการซ่อมแซมอวัยวะที่สึกหรอต่างๆได้ หรือเปลี่ยนเป็นเชลล์นักฆ่า(NATURAL KILLER CELL) ที่สามารถกำจัดเชลล์มะเร็ง เนื้องอก และไวรัสต่างๆ ได้ดี นอกจากนี้สเต็มเซลล์ที่เกิดขึ้นยังไปเนี่ยวนำเซลล์ปกติของร่างกายให้ถอยวัยลงได้ ทำให้ถอยวัยลงเป็นหนุ่มเป็นสาวได้นานขึ้น
  5. ในการนำไปใช้ผู้ผลิตพลูคาวแบบน้ำจะหาวิธีทำให้คุณสมบัติสรรพคุณของพลูคาวออกไปอยู่ในน้ำให้ได้มากที่สุด ส่วนผู้ผลิตแบบแคปซูลก็จะใช้เทคนิคพิเศษเพื่อให้สรรพคุณที่เกิดขึ้นอยู่กับพลูคาวให้ได้มากที่สุด และหาวิธีทำให้แห้งโดยไม่ให้สรรพคุณลดลงและเก็บได้ยาวนานมากที่สุด อาจต้องผสมสมุนไพรอื่นๆ เพิ่มเพื่อให้เสริมฤทธิ์กันให้มากขึ้น
  6. นำเข้าแคปซูลด้วยวิธีการเฉพาะเพื่อคงสภาพยาวนาน (Vcaps Capsule เป็นแคปซูลที่ทำจากพืชเช่น.แป้งข้าวโพด เป็นต้น)
  7. นอกเหนือจากนี้จะนำมาเป็นผลิตภัณฑ์ จะต้องตรวจสอบผ่านมาตรฐานอื่นๆ อีก เช่น.อย. GMP. ฮาลาน เป็นต้น

(การผลิตพลูคาวในปัจจุบันบางแบรนด์อาจมีกรรมวิธีการผลิตแบบใหม่ที่ไม่ต้องทำการหมัก จะทำการสกัดเอาสารที่ต้องการจากพลูคาวโดยตรงด้วยกรรมวิธีการแบบสมัยใหม่ แบบนี้จะได้สรรพคุณแบบเฉพาะบางเรื่องจากพลูคาว แต่จะไม่เกิดจุลชีพ หรือจุลินทรีย์ เหมือนสมัยก่อนที่เป็นต้นแบบในการผลิตพลูคาวมาอย่างยาวนานอาจทำให้ขาดสรรพคุณของพลูคาวในบางอย่างไป) พลูคาว


กระแสพลูคาวมาแรง

ปัจจุปันกระแสพลูคาวมาแรงมาก เพราะมีการระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้ผู้คนเริ่มมาสนใจสินค้าพลูคาวมากขึ้น เพราะทุกคนต้องการที่จะหาวิธีเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง สมุนไพรพลูคาวจึงเป็นอีกทางเลือก แต่ยังไงก็ตามปัจจุบันมีผู้ทำแบรนด์พลูคาวใหม่ๆ ขึ้นมาจำหน่ายตามกระแส ผู้บริโภคควรจะพิจารณาให้รอบครอบก่อนตัดสินใจเพราะเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพ สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงอันดับแรกเลยคือความปลอดภัยถ้าเป็นแบรนด์เก่าที่จำหน่ายมานานแน่นอนว่ามีความปลอดภัยสูงเพราะมีจำหน่ายมานานแล้ว แต่ก็ต้องพิจารณาเพิ่มอีกว่าสินค้านั้นใช้แล้วได้ผลตามสรรพคุณจริงหรือไม่ เพราะถ้านำมาใช้แล้วไม่ได้ผลตามสรรพคุณก็จะเสียเงินไปโดยปล่าวประโยชน์